
ตั้งกฎก่อนเกม: อย่าให้การเล่นเกมทำร้ายลูก
วิดีโอเกมเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในหมู่เด็กและวัยรุ่น ช่วยพัฒนาทักษะด้านไหวพริบ การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม การเล่นเกมอาจส่งผลเสียต่อพฤติกรรม สุขภาพ และการเรียนรู้ของลูกได้ ดังนั้น พ่อแม่ควรตั้งกฎก่อนเล่นเกมเพื่อให้เกมเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์และไม่เป็นภัยต่อเด็ก
- จำกัดเวลาเล่นเกมให้เหมาะสม
หนึ่งในปัญหาหลักของเด็กที่ติดเกมคือการเล่นเกมมากเกินไปจนกระทบต่อกิจวัตรประจำวัน
- กำหนดเวลาเล่นเกม เช่น ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวัน หรือเล่นเฉพาะช่วงเวลาที่ทำการบ้านและภารกิจประจำวันเสร็จแล้ว
- ใช้แอปพลิเคชันควบคุมเวลาการเล่นเกม เพื่อให้แน่ใจว่าลูกจะไม่ใช้เวลากับเกมมากเกินไป
- สอนให้ลูกรู้จักการแบ่งเวลา ระหว่างการเรียน การออกกำลังกาย และกิจกรรมอื่น ๆ
- เลือกเกมที่เหมาะสมกับวัย
เกมแต่ละประเภทมีเนื้อหาที่แตกต่างกัน บางเกมอาจมีความรุนแรงหรือไม่เหมาะสมกับอายุของเด็ก
- ตรวจสอบเรตติ้งของเกม เช่น ESRB (E for Everyone, T for Teen, M for Mature) หรือ PEGI (3, 7, 12, 16, 18)
- เล่นเกมร่วมกับลูกเพื่อดูว่าเนื้อหาเหมาะสมหรือไม่
- หลีกเลี่ยงเกมที่มีเนื้อหารุนแรง ภาพน่ากลัว หรือการพนันแฝง
- ห้ามเติมเงินในเกมโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลายเกมมีระบบ “In-App Purchase” หรือการเติมเงินเพื่อซื้อไอเท็มพิเศษ ซึ่งอาจทำให้ลูกใช้เงินโดยไม่รู้ตัว
- ตั้งค่าป้องกันการซื้อสินค้าในเกม เช่น ต้องใช้รหัสผ่านก่อนทำธุรกรรม
- สอนให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน และใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล
- หากต้องการเติมเงิน ควรมีข้อตกลงร่วมกัน เช่น ทำงานบ้านแลกกับค่าเติมเกมเล็กน้อย
- ห้ามเล่นเกมขณะรับประทานอาหารหรือก่อนนอน
การเล่นเกมในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูก
- ห้ามเล่นเกมขณะรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันการละเลยการกินและสร้างนิสัยการรับประทานที่ดี
- ไม่ควรเล่นเกมก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะแสงจากหน้าจออาจรบกวนการนอนและทำให้สมองตื่นตัว
- สนับสนุนให้ลูกมีเวลาพักสายตาจากหน้าจอเป็นระยะ
- ควบคุมเนื้อหาและพฤติกรรมออนไลน์
เกมออนไลน์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยเฉพาะการพูดคุยกับคนแปลกหน้า
- สอนลูกให้ระวัง Cyberbullying และการถูกล่อลวงทางออนไลน์
- จำกัดการพูดคุยกับคนแปลกหน้าในเกม และตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
- หากลูกถูกบูลลี่ในเกม ควรสอนให้บล็อกและรายงานผู้กระทำผิดแทนการตอบโต้
- สร้างสมดุลระหว่างเกมและกิจกรรมอื่น ๆ
แม้ว่าเกมจะเป็นแหล่งความบันเทิง แต่เด็กก็ควรมีการใช้เวลาทำกิจกรรมอื่น ๆ ด้วย
- จัดตารางเวลาให้ลูกมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือทำงานอดิเรก
- พ่อแม่สามารถเล่นเกมกับลูกเพื่อให้เกมเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกัน และช่วยควบคุมเนื้อหาที่ลูกเล่น
- สอนให้ลูกเล่นเกมอย่างพอดี และไม่ให้เกมมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
- เป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้เทคโนโลยี
เด็กมักเรียนรู้พฤติกรรมจากพ่อแม่ ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตตลอดเวลาเมื่อลูกอยู่ด้วย
- กำหนด “เวลาครอบครัว” ที่ปลอดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การทานอาหารร่วมกัน
- สอนให้ลูกใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่เล่นเกม
ได้รับการสนับสนุนโดย Hoiana