ร้านอาหารลับ ที่ซ่อนอยู่ในโรงแรมและซอยลึกลับที่แสนอร่อย ของกรุงเทพฯ
มีร้านอาหารหลายแห่งที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมหรู ร้านอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่จึงมีราคาไม่ถูก สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือร้านอาหารในกรุงเทพส่วนใหญ่อยู่ในรายชื่อของนักชิมและนักชิมตัวจริง
1.เอโนเตกา อิตาเลียนา
เป็นหนึ่งในร้านอาหารอิตาเลียนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในกรุงเทพอย่างไม่ต้องสงสัย แม้จะซ่อนตัวอยู่สุดถนนแคบๆ แต่ก็เต็มทุกวัน เมนูนี้มีทั้งอาหารอิตาเลียนคลาสสิกและยังมีเมนูทดลองอีกมากมาย
Enoteca เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหมู่ผู้พักอาศัยมายาวนานซึ่งชื่นชอบอาหารรสเลิศ และติดอันดับในคู่มือการเดินทางและอาหารรสเลิศมากมาย ดังนั้นจึงควรโทรศัพท์หนึ่งวันก่อนเพื่อเตรียมอาหารค่ำแสนโรแมนติกของคุณ แน่นอนว่าราคาจะสูงสักหน่อยแต่ก็คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์
2.Sra Bua at Siam Kempinski Hotel
เป็นร้านอาหารชั้นเลิศที่ให้บริการอาหารไทยล้ำสมัย อาหารไทยจานโปรดที่ขึ้นชื่อถูกเปลี่ยนจากภายในสู่ภายนอก และอาหารทุกจานก็อร่อยทั้งตาและต่อมรับรส ร้านอาหารสระบัวตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรมสยามเคมปินสกี้ มีเพดานสูงและการตกแต่งแบบไทยโบราณ
ชื่อของร้านอาหารหมายถึง ‘สระบัว’ และจุดเด่นของร้านอาหารคือน้ำพุที่หรูหราตกแต่งด้วยแผ่นลิลลี่และดอกบัว โต๊ะที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในบ้านตั้งอยู่ใต้หลังคาไม้สักแกะสลักอย่างสวยงามตรงมุมซ้ายของห้องรับประทานอาหาร แต่ก็มีบูธบรรยากาศสบายๆ บ้างถ้าคุณต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
3.Water Library Chamchuri
เป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญในวงการอาหารรสเลิศในกรุงเทพฯ โดยทีมงานที่ประสบความสำเร็จในการเปิดร้านอื่นๆ หลายแห่งทั่วเมือง ถึงกระนั้นเรือธงของจามจุรีก็ยังเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ
แนวคิดของร้านอาหารบางครั้งอาจอธิบายได้ด้วยคำที่คลุมเครือ เช่น ‘อาหารตะวันตกร่วมสมัย’ หรือ ‘อาหารยุโรปที่มีการหักมุม’ แต่หลังจากลองเมนูชุดตามฤดูกาลแล้ว
คุณคงคิดว่าอาหารมื้อนี้ได้รับการอธิบายได้ดีที่สุดว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสชั้นสูงที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน พร้อมด้วยส่วนผสมมากมาย อาหารคลาสสิกที่มีรูปลักษณ์ เช่น ฟัวกราส์ หอยเชลล์ และนกพิราบ
4.สการ์เลตต์ ไวน์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ ที่โรงแรมพูลแมน
เสิร์ฟอาหารนานาชาติเลิศรสพร้อมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลตึกระฟ้าในกรุงเทพฯ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นับตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าไปในร้านอาหารอันกว้างขวาง คุณจะรู้สึกดำดิ่งลงไปในบรรยากาศที่อบอุ่นทันที
และความตึงเครียดของโลกภายนอกก็จางหายไปภายใต้แสงไฟอันนุ่มนวล ห้องรับประทานอาหารที่มีพื้นที่เกือบทั้งชั้นได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างเกาะแห่งแสงสว่าง ทำให้สถานที่นี้มีบรรยากาศสบาย ๆ โดยไม่ต้องใช้ผนังหรือฉากกั้น
5.โคคอตต์ ฟาร์ม โรสต์ แอนด์ ไวน์เนอรี่
เป็นร้านอาหารที่ผสมผสานความหลงใหลในผลผลิตออร์แกนิกในท้องถิ่น ตามฤดูกาล เข้ากับร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีชีวิตชีวา สเต็กบาร์บีคิว ไก่ย่าง และสลัดผักสดมีรสชาติอร่อยและได้มาจากฟาร์มแบบยั่งยืนในประเทศไทย (ทุกอย่างยกเว้นสเต็ก)
ใกล้เคียงกับการรับประทานอาหารจากฟาร์มถึงโต๊ะพอๆ กับที่คุณน่าจะรับประทานได้ในกรุงเทพ และได้รับความนิยมอย่างไม่น่าเชื่อ ร้านนี้แน่นไปด้วยผู้คนเกือบทุกคืนในสัปดาห์ บรรยากาศสนุกสนานและมีพลัง พนักงานเสิร์ฟเข้า
และออกในขณะที่พ่อครัวกำลังยุ่งอยู่ในครัวแบบเปิด นอกจากนี้ยังมีร้านขายอาหารสำเร็จรูปแบบเปิดที่เสิร์ฟชีสสูตรพิเศษและเนื้อหมักไว้เพื่อให้คุณประกอบเป็นจานของคุณเอง
สนับสนุนโดย ทัวร์คาสิโนเวียดนาม
สวนเบญจกิติ (Benjakitti Park)
สวนเบญจกิติ (Benjakitti Park) ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสวนดังนี้:
ประวัติและที่มา:
– การก่อตั้ง: สวนเบญจกิติตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2535 (1992) เพื่อเป็นที่ระลึกในการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา
– พื้นที่: ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 130 ไร่
ลักษณะเด่น:
– ทะเลสาบ: มีทะเลสาบขนาดใหญ่ตรงกลาง ทำให้สวนนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนและกิจกรรมทางน้ำ เช่น การพายเรือ
– เส้นทางวิ่งและจักรยาน: มีเส้นทางวิ่งและจักรยานที่ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ล้อมรอบทะเลสาบ เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย
– สวนดอกไม้และต้นไม้: มีการจัดสวนอย่างสวยงามและมีพันธุ์ไม้ต่างๆ ทำให้สวนนี้เป็นที่ร่มรื่นและน่าเดินเล่น
– ลานกิจกรรม: มีลานกว้างสำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งการแสดงดนตรี การออกกำลังกายกลุ่ม และกิจกรรมชุมชนอื่นๆ
การเข้าถึง:
– ที่ตั้ง: ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
– การเดินทาง: สามารถเดินทางมาถึงได้ง่ายโดยใช้บริการรถไฟฟ้า MRT หรือขนส่งสาธารณะอื่นๆ
กิจกรรมที่มักทำกันในสวนเบญจกิติ
สวนเบญจกิติเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร มีบรรยากาศร่มรื่นและมีกิจกรรมหลายอย่างที่ผู้คนสามารถทำได้เมื่อมาเยือนสวนแห่งนี้ กิจกรรมที่มักทำกันในสวนเบญจกิติมีดังนี้:
- วิ่งและเดินออกกำลังกาย: สวนเบญจกิติมีเส้นทางวิ่งและเดินที่ดีและสะดวกสบาย ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายกลางแจ้ง
- ขี่จักรยาน: มีทางจักรยานที่จัดเตรียมไว้อย่างดี ผู้คนมักมาใช้บริการขี่จักรยานเพื่อการออกกำลังกายและผ่อนคลาย
- พายเรือ สวนเบญจกิติมีทะเลสาบขนาดใหญ่ ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเช่าเรือพายเพื่อการพักผ่อนและสัมผัสกับธรรมชาติ
- นั่งพักผ่อนและปิกนิก: มีพื้นที่ร่มรื่นพร้อมที่นั่งพักผ่อนและพื้นที่สำหรับการปิกนิก ทำให้เหมาะสำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนมานั่งพักผ่อนหรือทำกิจกรรมร่วมกัน
- เล่นกีฬา: บางส่วนของสวนมีสนามกีฬาและพื้นที่สำหรับกิจกรรมกีฬาต่าง ๆ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล และแบดมินตัน
- ถ่ายภาพ: ด้วยความสวยงามของทัศนียภาพและการจัดสวนที่ดี ทำให้สวนเบญจกิติเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายธรรมชาติหรือภาพถ่ายบุคคล
- จัดงานอีเวนต์และเทศกาลต่างๆ: บางครั้งสวนเบญจกิติก็เป็นสถานที่จัดงานอีเวนต์ เช่น งานวิ่งการกุศล เทศกาลดนตรี และกิจกรรมสันทนาการอื่น ๆ
สวนเบญจกิติเป็นสถานที่ที่มีความหลากหลายในกิจกรรมและมีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ ท่ามกลางธรรมชาติใจกลางเมือง
สนับสนุนโดย hoiana casino
หากไม่อยากอ้วนลงพุง ควรกินกาแฟ แบบไหน
การบริโภคกาแฟมีผลต่อสุขภาพและน้ำหนักตัว ซึ่งหลายคนอาจกังวลเรื่องการอ้วนลงพุง การกินกาแฟสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลน้ำหนักได้ แต่ต้องคำนึงถึงวิธีการเลือกดื่มและช่วงเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการปรับพฤติกรรมการบริโภค
เลือกดื่มกาแฟอย่างไรไม่ให้อ้วนลงพุง
การดื่มกาแฟจะไม่ทำให้อ้วนลงพุงหากเลือกดื่มอย่างเหมาะสม และหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่เพิ่มแคลอรี เช่น น้ำตาล นมข้นหวาน หรือครีมเทียม การดื่มกาแฟดำ (Black Coffee) ถือเป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากให้แคลอรีต่ำมาก และไม่มีน้ำตาลหรือไขมัน แต่ควรระวังไม่เติมสารให้ความหวานที่มากเกินไปเพราะจะทำให้ได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็น
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟ
– ช่วงเช้าหลังตื่นนอน: ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการดื่มกาแฟคือหลังจากตื่นนอนสัก 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เนื่องจากช่วงเวลานี้ร่างกายจะเริ่มตื่นตัว และกาแฟจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้มีพลังงานในการเริ่มต้นวันใหม่
– ช่วงกลางวัน (ก่อน 14:00 น.): หากต้องการเพิ่มพลังงานในการทำงานช่วงบ่าย กาแฟช่วงก่อนบ่ายสองถือเป็นเวลาที่ดี เพราะร่างกายยังคงสามารถเผาผลาญพลังงานได้ดี การดื่มหลังจากนี้อาจส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ
– หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟช่วงเย็นหรือดึก: การดื่มกาแฟช่วงเย็นอาจรบกวนการนอน ทำให้ระบบเผาผลาญลดลงและเกิดการสะสมไขมันในร่างกาย
กาแฟไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ต้องบริโภคเพื่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟและต้องการควบคุมน้ำหนัก สามารถดื่มได้ในปริมาณที่เหมาะสม การดื่มกาแฟช่วยกระตุ้นการเผาผลาญแคลอรี แต่ควรระวังไม่ดื่มมากเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายพึ่งพาคาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการขาดน้ำและส่งผลเสียต่อการนอนหลับในระยะยาว
การดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมคือไม่เกิน 2-3 แก้วต่อวัน (ประมาณ 200-300 มิลลิกรัมของคาเฟอีน) เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง เช่น ใจสั่น ความดันโลหิตสูง หรือปัญหาการนอนหลับ การดื่มกาแฟในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ร่างกายสร้างการทนต่อคาเฟอีนและทำให้เกิดความจำเป็นต้องดื่มในปริมาณมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลเท่าเดิม
การดื่มกาแฟอาจช่วยในการเผาผลาญแคลอรีได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการปรับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการพักผ่อนที่เพียงพอ การพึ่งพากาแฟเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ หากไม่มีการควบคุมอาหารและออกกำลังกายควบคู่กันไป
สรุปแล้ว การดื่มกาแฟสามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและให้พลังงานได้ แต่ควรเลือกดื่มกาแฟดำในช่วงเช้าหรือกลางวัน และหลีกเลี่ยงการดื่มในช่วงเย็นหรือก่อนนอน การดื่มกาแฟอย่างเหมาะสมร่วมกับการดูแลสุขภาพในด้านอื่น ๆ เช่น การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สนับสนุนโดย เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล