หญิงท้องอืดเป็นเดือน อาหารไม่ย่อย สุดท้ายโคม่า – ถูกตัดกระเพาะ เตือนใจสายกินจุ
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 มีการเปิดเผยเคสสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับ จาง หญิงวัย 41 ปี จากมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ซึ่งเป็นคนที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารอย่างมาก และมักจะกินอาหารในปริมาณที่เกินกว่าปกติ
เรื่องนี้เริ่มต้นจากพฤติกรรมการกินจุของเธอที่ทำต่อเนื่องมาเป็นเวลานานโดยไม่ใส่ใจสุขภาพ จนกระทั่งเมื่อ 1 เดือนก่อน เธอเริ่มมีอาการผิดปกติ มีอาการท้องอืดและรู้สึกไม่สบายท้อง ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าอาการเหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาการกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
หญิงท้องอืดเป็นเดือน อาหารไม่ย่อย สุดท้ายโคม่า หลังจากผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ อาการท้องอืดของจางไม่เพียงแค่ไม่ดีขึ้น แต่ยังมีอาการอาเจียนร่วมด้วย เธอเริ่มปวดท้องอย่างหนักจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จางพยายามบรรเทาอาการด้วยการกินยารักษาท้องอืดด้วยตัวเอง
แต่ก็ไม่ได้ผล และอาการของเธอก็หนักขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งไม่กี่วันก่อนที่เธอจะต้องเข้าโรงพยาบาล จางได้กินเค้กลูกพลับทั้งก้อนเข้าไป หลังจากนั้นไม่นานเธอเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
ครอบครัวของจางเห็นว่าอาการของเธอไม่ปกติ จึงรีบนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลในทันที แพทย์ตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นและสงสัยว่าเธออาจมีภาวะตับอ่อนอักเสบขั้นรุนแรง
ซึ่งเป็นอาการที่อันตรายถึงชีวิต แพทย์จึงแนะนำให้ส่งตัวจางไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลระดับสูงกว่าเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่กำลังส่งตัวเธอไปยังโรงพยาบาล Affiliated Hospital of Nantong University อาการของจางทรุดหนักลงอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเมื่อเธอมาถึงห้องไอซียู แพทย์พบว่าเธออยู่ในภาวะโคม่าแล้ว
แพทย์รีบทำการตรวจอย่างละเอียดและพบว่า กระเพาะอาหารของจางขยายตัวอย่างผิดปกติจนแทบระเบิด สาเหตุเกิดจากนิ่วขนาดใหญ่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งก่อตัวขึ้นจากเศษอาหารที่สะสมเป็นเวลานานโดยเฉพาะเค้กลูกพลับ
ซึ่งมีสารแทนนิน (Tannin) สูง สารนี้สามารถทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะอาหารจนก่อตัวเป็นก้อนนิ่วแข็งขนาดใหญ่ ส่งผลให้กระเพาะอาหารของจางอุดตัน และทำให้เกิดอาการท้องอืดอย่างรุนแรง
ด้วยอาการที่ร้ายแรงและเสี่ยงต่อชีวิต แพทย์ตัดสินใจผ่าตัดเอากระเพาะอาหารบางส่วนของเธอออกเพื่อช่วยชีวิต หลังจากการผ่าตัดจางยังคงต้องอยู่ในห้องไอซียูและเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดเป็นเวลาหลายวัน กว่าที่อาการของเธอจะค่อย ๆ ดีขึ้น
เหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นอุทาหรณ์สำคัญสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการกินจุหรือกินอาหารมากเกินไปโดยไม่ระมัดระวังสุขภาพ การรับประทานอาหารในปริมาณมากเป็นเวลานานอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่คาดไม่ถึง เช่น นิ่วในกระเพาะอาหารหรือภาวะกระเพาะอาหารอุดตัน ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ขอบคุณการสนับสนุนนี้โดย เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่า
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่งสารถึงแข้งแมนยู หลังพ่าย ยัง บอยส์
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงระดับตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเคลื่อนไหวผ่าน อินสตาแกรมส่วนตัว
เพื่อให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีม หลังจากที่ปีศาจแดงบุกไปพ่ายให้กับ ยัง บอยส์ 2-1 ในการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรก แม้จะเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าผิดหวังสำหรับแฟนบอลและนักเตะ แต่โรนัลโด้ยังคงแสดงความเป็นผู้นำด้วยการปลุกขวัญและกำลังใจให้กับทีม โดยย้ำถึงความสำคัญของการเรียนรู้จากความผิดพลาดและเดินหน้าต่อไป
เกมเมื่อคืนที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นผู้ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 13 จากการจ่ายบอลของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 35 เมื่อ อารอน วาน-บิสซาก้า ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม เนื่องจากการเข้าสกัดที่รุนแรงเกินไป ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องเล่นเพียง 10 คน
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่งสารถึงแข้งแมนยู การเหลือผู้เล่นน้อยกว่าในสนามส่งผลให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ต้องปรับแผนมาเล่นเกมรับอย่างเต็มตัวในครึ่งหลัง และยังคงรักษาสกอร์นำไว้ได้จนถึงช่วงท้ายเกม
อย่างไรก็ตาม ยัง บอยส์สามารถตีเสมอได้ในนาทีที่ 66 และสถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อ เจสซี่ ลินการ์ด ส่งบอลคืนหลังพลาดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งผลให้ทีมเจ้าบ้านฉวยโอกาสทำประตูชัยและคว้าสามแต้มไปได้อย่างสุดดราม่า
ข้อความของโรนัลโด้ไม่เพียงแค่สร้างความฮึกเหิมให้กับเพื่อนร่วมทีมเท่านั้น แต่ยังได้รับการตอบรับจากแฟนบอลที่เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก แฟนบอลหลายคนแสดงความมั่นใจว่า ด้วยความเป็นผู้นำและประสบการณ์ของเขา โรนัลโด้จะช่วยพาทีมกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้อย่างแน่นอน
การกลับมาของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไม่ได้มีความสำคัญเพียงแค่เรื่องของการยิงประตูหรือฟอร์มในสนามเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงบทบาทในฐานะผู้นำที่คอยสนับสนุนและเป็นแรงผลักดันให้เพื่อนร่วมทีม โรนัลโด้เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ในระดับสูงสุด เขาผ่านการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาแล้วถึง 5 ครั้ง และเข้าใจถึงความกดดันในเกมระดับนี้เป็นอย่างดี
ความพ่ายแพ้ในเกมแรกไม่ใช่สิ่งที่จะทำลายความมั่นใจของเขา ตรงกันข้าม โรนัลโด้มองว่านี่เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทีมที่ยังต้องปรับตัวและพัฒนา โดยเฉพาะผู้เล่นอายุน้อยที่ยังขาดประสบการณ์ในเวทีใหญ่
แม้ความพ่ายแพ้ครั้งนี้จะสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอล แต่ฤดูกาลยังอีกยาวไกล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีโอกาสกลับมาแก้ตัวในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดต่อไป และสิ่งสำคัญคือการรวมพลังและพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งขึ้น
สนับสนุนโดย หูตึงรักษาหายไหม