คุณเคยสงสัยไหมว่าเวลาที่คุณเข้าไปใช้บริการ Facebook นั้นเวลาที่คุณค้นหาข้อมูลที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรนั้นเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งจะมีโฆษณาส่งตรงมายัง Facebook ส่วนตัวของคุณซึ่งโฆษณาเหล่านั้นมักจะเป็นโฆษณาที่ใกล้เคียงกับที่คุณต้องการหาข้อมูลเช่น

ถ้าเกิดว่าคุณสนใจที่จะซื้อแก้วน้ำมาไว้ใช้งานแล้วคุณค้นหาข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการค้นหาผ่านทางมือถือหรือแม้แต่เป็นการพูดคุยเรื่องนี้กับเพื่อนของคุณเองว่าคุณอยากจะได้แก้วน้ำใหม่หลังจากนั้นไม่นานคุณจะเห็นว่าจะมีโฆษณาส่งมายังมือถือของคุณใน Facebook เกี่ยวกับแก้วน้ำที่มีร้านขายแก้วน้ำประกาศขายส่งมายังให้คุณที่หน้าฟีดของ Facebook เลยนั่นเองซึ่งหลายคนอาจจะงงแต่หลายคนอาจจะปล่อยๆมันไปแต่คุณรู้หรือไม่ว่าข้อมูลเหล่านี้ทาง Facebook รู้ได้อย่างไร

ว่าคุณกำลังหาข้อมูลอันไหนซึ่งก่อนหน้านี้นั้นเราเคยสงสัยกันมานานแล้วในที่สุดแล้วทาง Facebook ก็ออกมาเฉลยเกี่ยวกับเรื่องของโฆษณาที่มีการส่งถึงเราโดยที่เหมือนกับว่า Facebook นั้นมานั่งอยู่กลางใจเราเลยทีเดียวซึ่งเข้าออกมายอมรับแล้วว่าทางบริษัท Facebook นั้นมีระบบการทำงานของ AI ที่จะคอยตรวจสอบความต้องการของผู้ที่ใช้บริการ Facebook ว่าในขณะนี้นั้นลูกค้าของ Facebook นั้น

มีความต้องการอยากรู้ข้อมูลด้านไหนหลังจากนั้น AI จะมีการประมวลผลออกมาและส่งข้อมูลที่เราอยากจะรู้ไปให้กับทางผู้ใช้บริการ Facebook อีกครั้งหนึ่งซึ่งวิธีการที่ ระบบ AI สามารถประมวลผลได้ ก็มาจากการที่ระบบ AI นั้นได้ยินเสียงสนทนาของเราจาก Application Messenger ซึ่งมันจะมีการผูกติดอยู่กับ application facebook นั่นเองดังนั้นหากเราไม่ต้องการที่จะให้ทาง Facebook นั้นรู้ถึงข้อมูลความต้องการของเรา

และส่งโฆษณามายังเราโดยตรงได้นั้นเราจะต้องมีการเข้าไปปิดโปรแกรมไมโครโฟนซึ่งทาง Facebook แดนซ์ได้มีการทำเรื่องขออนุญาตในการที่จะมีการฟังข้อมูลในไมโครโฟนของเราได้นั่นเองซึ่งวิธีการปิดน้ำไม่ยุ่งยากเลยเราสามารถเข้าไปที่โทรศัพท์มือถือของเราแล้วเลือกไปที่เมนูการตั้งค่าหลังจากนั้นให้เราเลื่อนลงมาเรื่อยๆหาคำว่า Facebook เมื่อเราเจอเมนูหัวข้อ Facebook เข้ามาแล้ว

ให้เรากดเข้ามาในหัวข้อ Facebook เลยหลังจากนั้นให้เราหาคำว่าไมโครโฟนซึ่งถ้าหากไมโครโฟนนั้นข้างหลังเป็นรูปสีเขียวอยู่แสดงว่าเรามีการเปิดใช้งานไมโครโฟนอยู่ซึ่งผู้ใช้บริการ Facebook จะสามารถฟังเสียงจากไมโครโฟนที่เรามีการพูดคุยตรงนี้ได้แต่ถ้าเราอยากจะไม่ให้ทาง Facebook นั้น

รู้ว่าเรามีการสนทนาอะไรกับเพื่อนๆทางโทรศัพท์มือถือบ้างให้เราปิดตรงหัวข้อไมโครโฟนนี้ได้เลยซึ่งการปิดไมโครโฟนตรงนี้จะทำให้ข้อมูลของเราเป็นส่วนตัวมากขึ้นและทาง Facebook เองจะไม่สามารถเข้ามาดักฟังการสนทนาของเราได้ 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนัน

คอมพิวเตอร์กับโน๊ตบุ๊คอันไหนดีกว่ากันปัญหาโลกแตกเหมือนที่เราตอบไม่ได้ว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน  

            คุณเคยคิดไหมว่าถ้าหากคุณต้องซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาสักตัวหนึ่งคุณจะเลือกซื้อเครื่อง คอมพิวเตอร์ PC หรือคุณจะเลือกซื้อ Notebook แล้วการเลือกซื้อแบบไหนจะทำให้คุณสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่ากันหรืออันไหนดีกว่ากัน  หากพูดถึงวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์แล้วก็เริ่มแรกเดิมทีนั้นพวกเราก็ใช้คอมพิวเตอร์ PC มาตั้งแต่ต้นต่อมาจึงมีพัฒนาการเพิ่มมากขึ้น

โดยเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการทำ Notebook ขึ้นมาเพราะคอมพิวเตอร์ PC นั้นจะเป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่เราไม่สามารถที่จะไปใช้งานข้างนอกได้ด้วยการคุ้มครองมิวเตอร์ PC ไปเพราะมันทั้งใหญ่และมันจะต้องมีตัว CPU ควบคู่กับการใช้งานไปด้วยแตกต่างกันกับตัว Notebook ที่เราเพียงแค่ถือโน๊ตบุ๊คอันเดียว

แล้วก็สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาหากเรามี WiFi หรืออินเทอร์เน็ตเป็นตัวเชื่อมต่อทำให้ปัจจุบันคนมักจะนิยมใช้งาน Notebook มากกว่าคอมพิวเตอร์แต่เคยเปรียบเทียบกันไหมว่าในความเป็นจริงแล้วระหว่างคอมพิวเตอร์กับโน๊ตบุ๊คนั้นอันไหนที่ดีกว่ากันกันแน่สำหรับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ PC นั้น

จะมีการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่าเวลาที่เครื่องมีปัญหาก็สามารถที่จะนำไปซ่อมได้ง่ายกว่า Notebook เพราะมีอะไหล่ที่สามารถแก้ไขได้และตัวคอมพิวเตอร์พีซีนั้นมีความแข็งแรงมากกว่าอีกครั้งอุปกรณ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ PC นั้นเราก็สามารถถอดซ่อมได้ง่ายกว่าตัวโน้ตบุ๊กและราคาของคอมพิวเตอร์ PC นั้นก็ถูกกว่า Notebook เป็นอย่างมาก

แต่ถ้าหากเทียบกันกับความคล่องตัวในการใช้งานก็เทียบได้ว่า Notebook นั้นมีความคล่องตัวกับการใช้งานได้มากกว่าและอุปกรณ์ก็เล็กกะทัดรัดเราสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ทำให้เราสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาและไม่พลาดกับการติดต่อกับคนอื่นอีกทั้งโน้ตบุ๊กก็ยังใช้พลังงานต่ำการใช้ไฟฟ้ามาใช้เชื่อมต่อกับตัวคอมพิวเตอร์ PC

หากเทียบกับโน๊ตบุ๊คแล้วโน๊ตบุ๊คใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าที่สำคัญสามารถวางไว้ตรงไหนก็ได้เพราะตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่าใช้พื้นที่น้อยกว่าและไม่ต้องเห็นสายระโยงระยางของคอมพิวเตอร์ ต่อเครื่อง notebook นั้นถ้าเรายังมีแบตเตอรี่อยู่เราก็สามารถใช้งานได้เลยโดยที่เราไม่ต้องชาร์จแบตคือถ้าเกิดว่าเราต้องมีการชาร์จแบตสายการชาร์จแบตเตอรี่ก็เพียงแค่สายเดี่ยว

ไม่มีสายระโยงระยางให้รกหูรกตาจะใช้งานบนที่นอนบนโซฟาหรือจุดไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับเราดังนั้นนี่คือข้อดีข้อเสียระหว่างคอมพิวเตอร์กับโน๊ตบุ๊คซึ่งแต่ละคนก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าอันไหนดีกว่ากันเพราะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลหากบางคนที่ไม่ได้เดินทางออกไปข้างนอก

อยากจะใช้งานคอมพิวเตอร์ก็สามารถนั่งทำงานตั้งโต๊ะได้แต่ถ้าหากใครที่เน้นการทำงานนอกสถานที่การมี Notebook ก็จะดีกว่าการใช้งานคอมพิวเตอร์ดังนั้นนี่คือปัญหาโลกแตกที่ไม่สามารถตัดสินได้จริงๆว่าระหว่างคอมพิวเตอร์กับโน๊ตบุ๊คนั้นอันไหนดีกว่ากัน

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน