เศรษฐกิจไม่ดีทำคนไม่ยอมใช้หนี้ ผู้ค้ำประกันก็เดือดร้อน

        ขณะนี้ผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ส่งผลกระทบให้กับคนไทยเป็นวงกว้าง ผู้ค้ำประกันก็เดือดร้อน และมีการส่งผลกระทบกันเป็นลูกโซ่เลยทีเดียวซึ่งเราสามารถเห็นตัวอย่างผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจได้จากการที่มีข่าวเรื่องของคุณครูท่านหนึ่ง

ซึ่งมีการเซ็นค้ำประกันให้กับลูกศิษย์ตั้งแต่สมัยที่ลูกศิษย์คนดังกล่าวยังเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยมีโครงการที่จะช่วยเหลือครอบครัวที่ยากจนให้สามารถกู้ยืมเงินไปเรียนหนังสือได้

โดยจะต้องมีข้าราชการระดับซี 7 ขึ้นไปเป็นผู้ค้ำประกันดังนั้นผู้ปกครองส่วนใหญ่จึงมักรบกวนครูอาจารย์ซึ่งมีความสนิทชิดเชื้อกันมาช่วยเซ็นค้ำประกันให้กับลูกของตนเองได้แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นคนไทยมีใจอ้อมอารีและมักช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่แล้วทำ

ให้คุณครูส่วนใหญ่ในสมัยก่อนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากยอมเซ็นค้ำประกันให้กับลูกศิษย์ตนเองเพราะหวังอยากให้ลูกศิษย์ของตนเองนั้นเรียนจบมาแล้วมีอนาคตที่ดีแต่เนื่องจากสถานการณ์ของเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นไม่ได้ดีซึ่งเศรษฐกิจของไทยนั้นย่ำแ

ย่มาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัสโคโรน่า เสียอีกดังนั้นเด็กบางคนที่จบออกมาแล้วจึงไม่มีงานทำ  ในเมื่อไม่สามารถที่จะหางานได้ก็ไม่มีเงินที่จะไปใช้หนี้กับ กยศ. ซึ่งเป็นหนี้สินที่กูออกมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเรียนจบแล้วและเมื่อลูกหนี้ไม่ยอมใช้หนี้กยศ.ก็มักจะต้องติดตามทวงหนี้จากทางผู้ค้ำประกันและคนที่เดือดร้อนต่อมานั่นก็คือคุณครูที่เป็นคนค้ำประกันให้กับเด็กนักเรียนนั่นเอง

  อย่างที่ข่าวล่าสุดที่มีคุณครูท่านหนึ่งต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับคุณครูคนนี้เป็นอดีตครูที่เคยเป็นค้ำประกันให้กับเด็กนักเรียนเมื่อหลายปีมาแล้วและเด็กนักเรียนคนดังกล่าวรวมถึงครอบครัวของเด็กไม่ยอมใช้หนี้กยศทำให้คุณครูต้องเป็นคนใช้หนี้มา

ผู้ค้ำประกันก็เดือดร้อน โดยตลอดแต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่อีกทั้งคุณครูก็ไม่ได้ทำงานเป็นราชการครูและพ่อเกษมออกมาแล้วจึงมีเงินไม่เพียงพอต่อการจะไปปิดหนี้กยศนั่นเองและปัญหาที่ตามมาหลังจากที่ไม่มีเงินไปนี่ก็คือบ้านที่คุณครูอาศัยอยู่ซึ่งเป็นมรดกเพียงชิ้นเดียว

ที่มีอยู่กำลังจะถูกยึดและนี่เองคือสิ่งที่เป็นเหมือนลูกโซ่ที่ไม่สามารถที่จะแก้ไขให้เสร็จสิ้นได้เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กไปกู้เงินกยศและต้องมีคนค้ำประกันเมื่อเด็กไม่ยอมใช้หนี้ กยศ.ก็จะมาเรียกเก็บกับคนค้ำประกันซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือบุคคลที่ไปค้ำประกันให้กับลูกศิษย์ของตนเองนั้นเอง

  สำหรับสถานการณ์เช่นนี้ทหารเศรษฐกิจของประเทศไทยดีลูกศิษย์มีเงินมีงานทำก็จะสามารถนำเงินที่มีไปใช้หนี้กยศได้คุณครูก็ไม่ต้องมาเสียทรัพย์สินของตนเองที่มีอยู่หรือแม้แต่ถ้าเกิดเด็กไม่ยอมใช้หนี้คุณครูเองก็อาจจะมีงานเล็กๆน้อยๆทำที่จะสามารถใช้หนี้ กยศ. ของตนเองได้ดังนั้นจึงสามารถเปรียบเทียบได้ว่าถ้าหากเราแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของหนี้สินต่างๆในประเทศไทยก็น่าจะดีขึ้นมากกว่านี้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟัง