ประสบความสำเร็จกับเทคโนโลยี

นักวิจัยประสบความสำเร็จกับเทคโนโลยีควบคุมเครื่องมือด้วยคลื่นสมอง

ในสมัยที่การก้าวกระโดดทางด้านวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นได้เร็วทันใจนี้ นักวิจัยกลุ่มหนึ่งบรรลุความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีพร้อมอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการอ่านคลื่นสมองเพื่อสั่งเครื่องมือต่างๆให้ทำงานได้

นักวิจัยจากบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากสถาบัน Harvard Innovation Lab คือกลุ่มที่สามารถสร้างสรรค์และก็ประดิษฐ์วัสดุอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อคลื่นสมองของมนุษย์เข้ากับเครื่องมืออิเลคทรอนิคส์ได้ก่อนใคร

ตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์ที่ทีมนำเสนอออกมามี อาทิเช่น ของเล่นเด็กรถแข่งที่ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องใช้มือจับคันบังคับหรืออุปกรณ์อื่นใด นอกจากสวมที่รัดศีรษะ ซึ่งผลิตโดยบริษัท BrainCoรวมทั้งมีตัวเซ็นเซอร์มีส่วนประกอบของวัสดุไฮโดรเจล หรือโพลิเมอร์ประเภทหนึ่ง ทำให้สามารถอ่านคลื่นกระแสไฟฟ้าสมองของผู้สวมใส่ได้

แม็กซ์ นิวลอน ประธานบริษัท BrainCo พูดว่า อุปกรณ์นี้ทำหน้าที่ประเมินความมีสมาธิของผู้เล่น เพื่อช่วยทำให้คนๆนั้นสามารถเรียนรู้การทำสมาธิ หรือ ผ่อนคลายนิวลอน กล่าวว่า เมื่อผู้ใช้งานอุปกรณ์นี้มีสมาธิ คลื่นสมองก็จะมีรูปแบบแบบหนึ่ง แล้วก็ยิ่งมีความสงบเงียบนิ่งแล้วก็ผ่อนคลาย คลื่นสมองก็จะเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นอีกแบบ ทีมงานจีงคำนวณความแตกต่างของรูปแบบคลื่นสมองดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น แล้วแปลงเป็นค่าตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 100 ซึ่งก็คือ ความบรรเทาเต็มที่ ไปจนกระทั่ง การมีสมาธิขั้นที่สูงที่สุด ซึ่งเป็นค่าที่ช่วยส่งพลังขับเคลื่อนรถแข่งให้เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ได้สำเร็จ

นอกจากนั้น นักวิจัยยังออกแบบอุปกรณ์จับแล้วก็อ่านค่าคลื่นสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อ ซึ่งอยู่ในลักษณะของอุปกรณ์แขน/ขาเทียม ที่มีส่วนประกอบเป็นหน่วยประเมินผลรวมทั้งตัวเซ็นเซอร์รายงานข่าวพูดว่า การทดลองอุปกรณ์แขนเทียมกับผู้ร่วมทดสอบซึ่งเป็นชายชาวจีนที่ได้รับอุบัติเหตุแขนขาด ทำให้เจ้าตัวสามารถจับพู่กันเขียนตัวหนังสือจีนได้เปรียบเสมือนคนปกติ เพียงแค่ใช้ความคิดบังคับนิ้วเทียมให้ขยับเพียงแค่นั้น

นิวลอน แห่งบริษัท BrainCo กล่าวว่า เทคโนโลยีระบบเชื่อมต่อสำหรับคอมพิวเตอร์ หรือ interface ที่ปรับปรุงออกมาสำเร็จนี้ บอกให้เห็นถึงแนวทางการมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างมนุษย์รวมทั้งจักรกลที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

นิวลอน กล่าวว่า เมื่อไม่กี่ทศวรรษก่อน มนุษย์เราเริ่มควบคุมเทคโนโลยีด้วยการใช้มือ ได้แก่ การใช้นิ้วเปิด-ปิดสวิทช์ไฟ ต่อมา ก็เป็นเทคโนโลยีสัมผัสหน้าจอ อย่างกรณีโทรศัพท์ไอโฟน และก็ปัจจุบันนี้ มนุษย์เราเริ่มเคยชินกับการใช้เสียงสั่งงานแล้ว เพราะฉะนั้น ในอนาคต อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดที่จะมองเห็นการใช้สมองสั่งงานเครื่องจักร

ได้ยินกันแบบนี้แล้ว อีกไม่นาน พวกเราน่าจะมองเห็นการใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆที่ให้ผู้บริโภคใช้เพียงแค่ความนึกคิดเพื่อทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นไปอีก

 

สนับสนุนโดย  BK8